Salesforce Net Zero Cloud เทคโนโลยี เพื่อโลกที่ยั่งยืน

19 ก.ค. 2567

ท่ามกลางสถานการณ์โลกร้อนที่ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญ ด้วยการร่วมกันกำหนดเป้าหมายในการควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้สูงขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียส และพยายามตั้งเป้าหมายสูงสุดไว้ที่ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม ตามข้อตกลงภายใต้ความตกลงปารีส (Paris Agreement) โดยนานาประเทศได้ประกาศเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions)

สำหรับประเทศไทย ได้ประกาศเป้าหมายการเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2065 โดยเป้าหมายนี้จะสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคน โดยเฉพาะภาคธุรกิจ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูงในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ปัจจุบันองค์กรธุรกิจหลายรายได้เริ่มปรับตัวเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและบรรลุเป้าหมาย Net Zero ที่จะนำไปสู่การดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน อีกทั้งยังได้รับแรงกดดันจากการเปลี่ยนแปลงภายนอกหลายอย่าง เช่น ความคาดหวังของนักลงทุนที่ต้องการให้ดำเนินธุรกิจตามแนวทาง Environmental, Social, Governance หรือ ESG มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีธรรมาภิบาลที่ดี โดยในประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้มีการกำหนดหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings เพื่อให้นักลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน และกำหนดให้บริษัทในตลาดหลักทรัพย์เปิดเผยการดำเนินการด้าน ESG ไว้ในแบบ 56-1 หรือ One Report ซึ่งเป็นรายงานประจำปี

นอกจากนี้ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ที่คาดหวังสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การสร้างและรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของธุรกิจ ตลอดจนการกีดกันสินค้าและบริการที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูง ผ่านมาตรการทางการค้าระหว่างประเทศต่างๆ เช่น Carbon Border Adjustment Mechanism (CBAM) ก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ธุรกิจเริ่มเดินหน้าปรับตัวเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน

ภายใต้การปรับตัวของธุรกิจเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ที่ท้าทายนี้ เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทหลายด้าน ซึ่งหนึ่งในเทคโนโลยีที่จะช่วยผลักดันให้เป้าหมายนี้เข้าใกล้ความจริงและสำเร็จได้ คือ Salesforce Net Zero Cloud ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถติดตาม และจัดการกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Net Zero Cloud ช่วยให้บริษัทสามารถรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากแหล่งต่างๆ ในองค์กรได้อย่างเป็นระบบ ช่วยให้สามารถวิเคราะห์และรายงานผลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ทำให้การตัดสินใจและการวางแผนมาตรการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นไปได้อย่างมีข้อมูลครบถ้วนและเป็นระบบมากขึ้น

หลายบริษัททั่วโลกได้นำ Net Zero Cloud ไปใช้เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานที่ยั่งยืน เช่นบริษัท Schneider Electric ได้ใช้บริการนี้เพื่อช่วยจัดการกับข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและวางแผนการลดการปล่อยอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีบริษัท JetBlue Airways ที่ใช้ Net Zero Cloud ในการวิเคราะห์และรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากกิจกรรมการบิน ทำให้สามารถวางแผนและปรับปรุงการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนมากขึ้น

การใช้ Net Zero Cloud ของ Salesforce จึงไม่เพียงแต่ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถจัดการกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโลกที่ยั่งยืนได้อีกด้วย

ที่มา :


Share